วิธีแก้ Cannot access the kernel driver
ขั้นที่ 1 ให้ไปที่เข้าไปที่ : "C:\Program Files\VMLite\VMLite Workstation\drivers\vboxdrv\" หรือ เข้าไปที่โฟลเดอร์ของไฟล์ที่เราติดตั้ง แล้วเข้าไปที่โฟลเดอร์ Driver > vboxdrv
ขั้นที่ 2 จะพบไฟล์จำนวน 3 ไฟล์
ให้คลิกขวาที่
VBoxDrv.inf. แล้วเลือก install
ขั้นที่ 3 คัดลอกไฟล์
vboxdrv.sys ไปไว้ที่
c:\windows\system32\drivers และ
c:\windows\system32 (วางไว้ 2 ที่นะ)
ขั้นที่ 4 เปิด Command Line ขึ้นมา(Start > พิมพ์ cmd) ให้เข้าไปที่ directory "c:\Windows\System32"
(cd .. (ซีดี เว้นวรรค จุดจุด) คือ ย้อนกลับไปโฟลเดอร์บน)
วิธีเข้าไปก็ cd Windows (พิมพ์ตัวเล็ก ตัวใหญ่ ให้ถูกต้องด้วย)
ขั้นที่ 5 พิมพ์ net start vboxdrv
ขอโทษด้วยนะ ที่ไม่มีภาพประกอบ พอดีคอมฯ พี่ไม่มีปัญหา
วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555
วันพุธที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2555
ฟิต"แบตเตอรี่"เดือนละครั้ง ฟื้น"พลัง"ให้โน้ตบุ๊คตัวเก่งของคุณได้
เมื่อโน้ตบุ๊ค (notebook) ตัวเก่ง (หรือตัวเก่า) ของคุณ เริ่มทำงานช้าลง ซึ่งคุณผู้อ่านอาจจะสังเกตได้จากการโหลดหน้าเว็บที่ช้าลง รอวิดีโอตั้งนานกว่าจะเริ่มเล่น ตลอดจนความเชื่องช้าของการทำงานส่วนอื่นๆ ทั่วไปจนคุณรู้สึกได้ น่าเสียดายที่ผู้ใช้โน้ตบุ๊คหลายรายในแต่ละปี เลือกใช้วิธีเปลียนแบตเตอรี่ โดยไม่เคยได้ทำให้แบตเตอรี่ฟิตปั๋งเหมือนวันแรกๆ เลยสักครั้ง ทั้งๆ ที่ความจริง มันเป็นกิจกรรมที่ควรทำทุกเดือน โดยเฉพาะหากต้องการให้โน้ตบุ๊คทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ดูครับ
• ชาร์จแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊คจนเต็ม 100%
• เมื่อแบตฯเต็มแล้วถอดปลั๊ก จากนั้นใช้งานเครื่องจนแบตเตอรี่เกือบจะหมด จัดเก็บงานเอกสารที่แก้ไข ปิดบราวเซอร์เว็บ และโปรแกรมต่างๆ ให้หมด แล้วปล่อยให้โน้ตบุ๊คชัตดาวน์ไปเอง (Hibernate Mode) แบตฯจะเหลือประมาณ 5% - 10%
• ทิ้งไว้อย่างนั้นเป็นเวลา 5 - 6 ชั่วโมง หรือหนึ่งคืน ซึ่งแบตฯจะมีการคายประจุไฟฟ้าจนเกือบจะสมบูรณ์ เพื่อการชาร์จแบตฯครั้งต่อไปจะได้เหมือนกับเป็นการชาร์จครั้งแรกๆ
• จากนั้นเปิดเครื่องแล้วชาร์จแบตฯจนเต็ม 100% แล้วค่อยนำไปใช้
• ทำขั้นตอนทั้งหมดนี้ เดือนละครั้ง หรือทุกๆ การชาร์จแบตฯ 30 ครั้ง
การดูแลแบตเตอรี่ หรือ Calibration เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะละเลย การฟิตแบตฯด้วยขั้นตอนข้างต้นทุกเดือน มันก็น่าจะทำให้ได้ผลลัพธ์ของประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดอยู่เสมอ หากคุณทำเป็นปกติ คุณจะสังเกตเห็นว่า แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊คใช้งานได้นานขึ้น แถมยังช่วยยืดอายุใช้งานแบตฯ ไม่ต้องเปลี่ยนอันใหม่ในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม: แบตเตอรี่ Lithium-ion จะไม่ต้องการให้มีการ"ดิสชาร์จ"จนหมด โดยเฉพาะการใช้งานจนแบตฯเหลือต่ำกว่า 10% ทุกครั้งแล้วค่อยชาร์จ ซึ่งอาจทำให้แบตฯเสื่อมเร็วกว่าเวลาอันควร แต่สำหรับการทำ Calibration ที่แนะนำข้างต้น จะทำแค่ครั้งเดียวต่อเดือน (หรือทุกๆ 30 ครั้งของการชาร์จแบตฯ) สำหรับการใชั้งานทั่วไป เมื่อแบตเตอรี่เหลือไฟประมาณ 30% - 40% ก็ควรชาร์จได้แล้ว นอกจากนี้ ความร้อนของโน้ตบุ๊ค หรือแหล่งความร้อนภายนอก อย่างเช่น ทิ้งโน้ตบุ๊คไว้กลางแดด ก็ส่งผลต่อแบตฯเสื่อมเร็วขึ้นได้อีกด้วย หากคุณผู้อ่านไม่ต้องการทำ Calibration ให้หลีกเลี่ยงการเสียบปลั๊กโน้ตบุ๊คนานเกินกว่า 8 ชั่วโมง เนื่องจากคุณสมบัติของแบตฯ Lithium-ion จะใช้ได้นาน เมื่อมีการชาร์จ และดิสชาร์จตามความเหมาะสม หากต้องทิ้งโน้ตบุ๊คไว้โดยไม่ใช้นานเกินกว่า 1 สัปดาห์ ควรมั่นใจว่า มีแบตเตอรี่เหลืออยู่อย่างน้อย 40%
แหล่งที่มา : ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์
• ชาร์จแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊คจนเต็ม 100%
• เมื่อแบตฯเต็มแล้วถอดปลั๊ก จากนั้นใช้งานเครื่องจนแบตเตอรี่เกือบจะหมด จัดเก็บงานเอกสารที่แก้ไข ปิดบราวเซอร์เว็บ และโปรแกรมต่างๆ ให้หมด แล้วปล่อยให้โน้ตบุ๊คชัตดาวน์ไปเอง (Hibernate Mode) แบตฯจะเหลือประมาณ 5% - 10%
• ทิ้งไว้อย่างนั้นเป็นเวลา 5 - 6 ชั่วโมง หรือหนึ่งคืน ซึ่งแบตฯจะมีการคายประจุไฟฟ้าจนเกือบจะสมบูรณ์ เพื่อการชาร์จแบตฯครั้งต่อไปจะได้เหมือนกับเป็นการชาร์จครั้งแรกๆ
• จากนั้นเปิดเครื่องแล้วชาร์จแบตฯจนเต็ม 100% แล้วค่อยนำไปใช้
• ทำขั้นตอนทั้งหมดนี้ เดือนละครั้ง หรือทุกๆ การชาร์จแบตฯ 30 ครั้ง
การดูแลแบตเตอรี่ หรือ Calibration เป็นขั้นตอนสำคัญที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะละเลย การฟิตแบตฯด้วยขั้นตอนข้างต้นทุกเดือน มันก็น่าจะทำให้ได้ผลลัพธ์ของประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดอยู่เสมอ หากคุณทำเป็นปกติ คุณจะสังเกตเห็นว่า แบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊คใช้งานได้นานขึ้น แถมยังช่วยยืดอายุใช้งานแบตฯ ไม่ต้องเปลี่ยนอันใหม่ในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม: แบตเตอรี่ Lithium-ion จะไม่ต้องการให้มีการ"ดิสชาร์จ"จนหมด โดยเฉพาะการใช้งานจนแบตฯเหลือต่ำกว่า 10% ทุกครั้งแล้วค่อยชาร์จ ซึ่งอาจทำให้แบตฯเสื่อมเร็วกว่าเวลาอันควร แต่สำหรับการทำ Calibration ที่แนะนำข้างต้น จะทำแค่ครั้งเดียวต่อเดือน (หรือทุกๆ 30 ครั้งของการชาร์จแบตฯ) สำหรับการใชั้งานทั่วไป เมื่อแบตเตอรี่เหลือไฟประมาณ 30% - 40% ก็ควรชาร์จได้แล้ว นอกจากนี้ ความร้อนของโน้ตบุ๊ค หรือแหล่งความร้อนภายนอก อย่างเช่น ทิ้งโน้ตบุ๊คไว้กลางแดด ก็ส่งผลต่อแบตฯเสื่อมเร็วขึ้นได้อีกด้วย หากคุณผู้อ่านไม่ต้องการทำ Calibration ให้หลีกเลี่ยงการเสียบปลั๊กโน้ตบุ๊คนานเกินกว่า 8 ชั่วโมง เนื่องจากคุณสมบัติของแบตฯ Lithium-ion จะใช้ได้นาน เมื่อมีการชาร์จ และดิสชาร์จตามความเหมาะสม หากต้องทิ้งโน้ตบุ๊คไว้โดยไม่ใช้นานเกินกว่า 1 สัปดาห์ ควรมั่นใจว่า มีแบตเตอรี่เหลืออยู่อย่างน้อย 40%
แหล่งที่มา : ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์
วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555
แก้ปัญหาเรื่องเสียงของ Captivate 4
The solution is rather easy and thus far, I have not encountered any difficulties.
1.Update Captivate 4 to latest (and likely final version - it is end of life)
You should have version:.... um... how on earth do you see the version #? About Captivate doesn't show me the version #. ??? Odd!
2. Close Adobe Captivate 4. (Important)
3. Go to the folder where Captivate 4 is installed.
You
1.Update Captivate 4 to latest (and likely final version - it is end of life)
You should have version:.... um... how on earth do you see the version #? About Captivate doesn't show me the version #. ??? Odd!
2. Close Adobe Captivate 4. (Important)
3. Go to the folder where Captivate 4 is installed.
You
will notice that the NSAudio.dll is, in fact, stored here. So there is no need to download it!
4. Open up a DOS window in Administrative mode. This is important! You must be in admin mode!
This is done by right-clicking on the CMD icon and selecting Properties and Advanced button
Can't find the icon? You can make one by making a shortcut to your desktop (cmd.exe is located in \windows\system32 folder)
5. With the DOS window open, change directory (CD to folder where NSAudio.dll is located)
Example: Type CD \Program Files (x86)\Adobe\Adobe Captivate 4
6. Register this .dll
Type regsvr32 NSAudio.dll
That's all!
Confirmed working on Windows 7 64bit OS
เห็นถามกันมาเยอะ ว่า Win7 64 bit ทำยังไง
ลองทำดู
4. Open up a DOS window in Administrative mode. This is important! You must be in admin mode!
This is done by right-clicking on the CMD icon and selecting Properties and Advanced button
Can't find the icon? You can make one by making a shortcut to your desktop (cmd.exe is located in \windows\system32 folder)
5. With the DOS window open, change directory (CD to folder where NSAudio.dll is located)
Example: Type CD \Program Files (x86)\Adobe\Adobe Captivate 4
6. Register this .dll
Type regsvr32 NSAudio.dll
That's all!
Confirmed working on Windows 7 64bit OS
เห็นถามกันมาเยอะ ว่า Win7 64 bit ทำยังไง
ลองทำดู
เปิด cmd
2.ไปที่ directory ของโปรแกรม Captivate ที่เราลงไว้
3.พิมพ์ regsvr32 NSAuio.dll
2.ไปที่ directory ของโปรแกรม Captivate ที่เราลงไว้
3.พิมพ์ regsvr32 NSAuio.dll
วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555
งานรุ่นน้องปี 2-3
***** หัวข้อไหนง่าย ๆ พี่ขอข้ามนะ *****
ข้อ 1.1
ข้อ 1.2
ข้อ 2.2 Source Code
ข้อ 1.1
1. เข้า Command Line (start > cmd) 2. พิมพ์ config /all 3. สังเกตที่บรรทัด Physical Address : จะต้องตรงกับ wireshark 4. วิธีดูจาก wireshark ก็คือ ดูที่บรรทัด Ethernet II แล้วก็ Source |
- วิธีหา IP Address เครื่อง
IP Address เครื่องดูได้จาก บรรทัด IPv4 Address (อยู่ด้านล่าง Physicall Address 4 บรรทัด) |
- วิธีหา Subnet Mask
Subnet Mask เครื่องดูได้จาก บรรทัด Subnet Mask (อยู่ด้านล่าง IPv4 Address ) |
- วิธีหา DHCP
- วิธีหา DNS
- วิธีหา IP จริง & ISP
1. เข้าเว็บ http://whatismyipaddress.com/
ข้อ 1.2
- URL : ใส่ลิงค์เว็บที่น้องจะทำลงไป
- Ip Address
1.เข้า CMD 2.พิมพ์คำสั่ง Ping www.????????????.com ลงไป |
- ที่ตั้งของเว็บ
1. กลับไปที่เว็บ http://whatismyipaddress.com/
2. พิมพ์ IP Address ของเว็บที่เราได้ลงไปในช่อง
จากนั้นจะได้ตำแหน่งที่ตั้งของเว็บ |
ข้อ 2.2 Source Code
- เข้าเว็บไซต์ที่น้องจะทำ ด้วยโปรแกรม Internet Explorer
- คลิ๊กขวาที่พื้นที่่ว่าง แล้วเลือก View Source
- ก็อปปี้โค้ดทั้งหมด
ข้อ 2.3
1. เข้าเว็บไซต์ที่น้องจะทำ ด้วยโปรแกรม Google Chrome
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)