วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์

ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์
ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ คือ ฟังก์ชันที่ใช้ในการคำนวณค่าทางคณิตศาสตร์อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยมีเมท็อดที่ใช้ดังนี้
เมท็อด ความหมาย ตัวอย่าง
Math.Pow(ฐาน,เลขชี้กำลัง) หาค่ายกกำลัง(Power) Math.Pow(x,2) หมายถึงหาค่า x^2
Math.Sqrt(ตัวเลข) หาค่ารากที่สอง(Square Root) Math.Sqrt(x) หมายถึงหาค่ารากที่สองของ x
Math.Abs(ตัวเลขทศนิยม) หาค่า Absolute Math.Abs(x) หมายถึง หาค่า |x|
Math.PI หาค่า Math.PI มีค่า 22 7 นั่นเอง
Math.Sin(มุมที่มีค่าเป็นเรเดียน) หาค่า sine Math.Sin(x) หมายถึง หาค่า sin(x)
Math.Cos(มุมที่มีค่าเป็นเรเดียน) หาค่า cosine Math.Cos(x) หมายถึง หาค่า cos(x)
Math.Tan(มุมที่มีค่าเป็นเรเดียน) หาค่า tangent Math.Tan(x) หมายถึง หาค่า tan(x)
Math.BigMul(จำนวนเต็มตัวที่ 1, จำนวนเต็มตัวที่ 2) หาค่าผลคูณของตัวเลข 2 ตัว Math.BigMul(x,y) หมายถึง หาค่าผลคูณของ x กับ y (x x y)
Math.Ceiling (ตัวเลขที่มีทศนิยม) หาค่าจำนวนเต็มที่ถูกปัดขึ้นมาจากการมีทศนิยม Math.Ceiling(10.02) จะได้ผลลัพธ์คือ 11 จะปัดขึ้นทั้งหมดโดยไม่สนใจ
Math.Floor (ตัวเลขที่มีทศนิยม) หาค่าจำนวนเต็มที่ถูกปัดลงจากการมีทศนิยม Math.Floor(10.99) จะได้ผลลัพธ์ คือ 10 จะปัดลงทั้งหมดโดยไม่สนใจทศนิยม
Math.Truncate(ตัวเลขที่มีทศนิยม) หาค่าจำนวนเต็มที่ถูกปัดลงจากการมีทศนิยม Math.Truncate(10.99) จะได้ผลลัพธ์ คือ 10 เช่นเดียวกับ Math.Floor(10.99) จะปัดทศนิยมทิ้งไปเหลือแต่จำนวนเต็ม
Math.Round (ตัวเลขที่มีทศนิยม) หาค่าจำนวนเต็ม โดยจะปัดขึ้นเมื่อมีค่า > 0.5 แต่ถ้าเลขที่เป็นจุดทศนิยมมีค่า 0.5 พอจะดีจะขึ้นกับตัวเลขจำนวนเต็มว่าเป็นเลขคู่หรือเลขคี่
หากเป็นเลขคู่จะปัด .5 ทิ้งไป แต่ถ้าเป็นเลขคี่ จะปัด .5 ขึ้น
Math.Round(10.4) ผลลัพธ์คือ 10
Math.Round(10.7) ผลลัพธ์คือ 10
Math.Round(10.5) ผลลัพธ์คือ 10
Math.Round(11.3) ผลลัพธ์คือ 11
Math.Round (ตัวเลขที่มีทศนิยม,
จำนวนตำแหน่ง ทศนิยมที่ต้องการ)
หาค่าจำนวนทศนิยมที่มีตำแหน่งทศนิยมตามต้องการ Math.Round(23.1243565,2) จะได้ผลลัพธ์คือ 23.12
Math.Round(62.57879821,4) จะได้ผลลัพธ์คือ 62.5788
Math.Round(11.555,2) จะได้ผลลัพธ์คือ 11.56 (เนื่องจากตัวก่อนหน้าเป็นเลขคี่จึงปัดไปหาเลขคู่)
Math.Round(11.565,2) จะได้ผลลัพธ์คือ 11.56

Excel

1. เลือกเซลล์ที่จะเติมศูนย์
2. กด F5 เพื่อไปที่ฟังก์ชั่น

3. เลือก Special

4. เลือก Blanks กด OK มันจะเลือกตารางช่องที่มันว่างจากที่เราลากคลุมไปตะกี๊

5. พิมพ์ข้อความหรือตัวเลขอะไรก็ได้ แล้วก็ Enter ไป มันจะไปช่องว่างอันถัดไปให้

6. แต่ถ้าจะเติม 0 ก็เติมที่ตารางว่างช่องแรก แล้วกด Ctrl+Enter