1. เติมน้ำมันล้นถังไม่เป็นผลดี
ในสภาพอากาศร้อนจัดอย่าเติมน้ำมันจนล้นถัง เพราะความร้อนจะทำให้เพิ่มความดัน มีผลทำให้น้ำมันขยายตัวลื่นไหลออกจากถังเกิดอันตราย สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
2. ลากเกียร์ทำให้คลัตช์เสียเร็ว
การใช้เกียร์ควรทำให้เหมาะสมและถูกจังหวะ อย่าลากเกียร์บ่อย จะทำให้คลัทช์เสียเร็วและยางหมดอายุเร็วขึ้น
3. อย่าขับรถจนน้ำมันหมดถัง
การขับรถจนน้ำหมดถัง จะทำให้เครื่องกรองน้ำมันมีโอกาสเสียได้มาก เนื่องจากตะกอนบางอย่างที่สะสมอยู่ในถังจะไปค้างที่เครื่องกรอง
4. อย่าใช้อิฐแทนแม่แรงรถ
อิฐสร้างบ้านก้อนที่แข็งที่สุดยังสามารถแตกได้ อย่าใช้รองหรือหนุนรถแทนแม่แรงต่างหาก เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้
5. ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดกระจก
แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติช่วยฆ่าเชื้อโรคและยังใช้ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่เป็นแก้วหรือกระจกได้ กระจกรถของคุณที่มีคราบสกปรก จะถูกขจัดได้อย่างง่ายดายด้วยแอลกอฮอล์
6. สำรวจกระจกอย่าให้มีรอยร้าว
รอยร้าวที่กระจกเพียงเล็กน้อย จะทำให้ขยายวงกว้างไปสู่การแตกใหญ่ได้ต้องหมั่นสำรวจอยู่เสมอ การเปิดแอร์เย็นจัดในขณะอากาศภายนอกร้อนจะทำให้กระจกหดตัวอย่างรวดเร็ว เป็นสาเหตุให้เกิดการแตกของกระจกได้
7. เครื่องเป่าผมก็มีประโยชน์
รถที่สตาร์ทไม่ติดอันเนื่องมาจากปัญหาความชื้นลองใช้เครื่องเป่าผมเป่าความร้อนบริเวณเครื่องยนต์ที่คิดว่ามีความชื้นจนกว่าจะแห้ง แล้วลองสตาร์ทใหม่ดูอีกครั้ง
8. การควบคุมอารมณ์
การขับรถจำเป็นที่จะต้องควบคุมอารมณ์ด้วยความอดทนยิ่งในสภาพรถติดแสนสาหัส แบบบ้านเรายิ่งต้องมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยไม่สวมวิญญาณร้ายขณะขับรถ ไม่ใช้วาจาหยาบคาย และอย่าพยายามสั่งสอนบทเรียนต่อผู้อื่น
9. โกรธและหงุดหงิดอย่าขับรถเด็ดขาด
อารมณ์โกรธและหงุดหงิด มีผลเสียอย่างยิ่งต่อการใช้รถใช้ถนน ความกดดันทางอารมณ์จะทำให้มีผลต่อเนื่องไปยังผู้ขับขี่รถคนอื่น และนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุครั้งร้ายแรงได้
10. อย่าตอบโต้กับผู้ขับขี่รายอื่น
หากคุณอารมณ์เสียเนื่องจากผู้ขับขี่รถคันอื่น ต้องพยายามเก็บกดอารมณ์ไม่ตอบโต้ การตอบโต้จะทำให้เกิดผลร้ายต่อเนื่อง อย่างน้อยจะทำให้เราขาดสมาธิขาดการสังเกต สุดท้ายก็ลงเอยด้วยอุบัติเหตุ เป็นไปได้น่าจะจอดรถสงบสติอารมณ์สักครู่
11. หลีกเลี่ยงการเดินทางในสภาพอากาศเลวร้าย
เรามั่นใจแค่ไหนในการขับขี่รถในสภาพอากาศที่เลวร้าย เช่น ฝนตกหนัก หมอกลงจัด ทางที่ดีควรจะงดการขับรถ หันไปใช้บริการของรถสาธารณะจะดีกว่า ทั้งนี้ต้องติดตามการพยากรณ์ของอุตุนิยมวิทยา
12. การปรับพวงมาลัย
รถรุ่นใหม่สามารถปรับแกนพวงมาลัยให้เข้ากับสภาวะร่างกายของผู้ขับขี่ได้ อย่าปรับให้พวงมาลัยอยู่ในตำแหน่งที่มองแผงหน้าปัดยาก ล็อคแกนพวงมาลัยให้มั่นคงหลังจากปรับตำแหน่งจนได้ที่แล้ว ห้ามปรับพวงมาลัยในขณะรถเคลื่อนที่เด็ดขาด
13. เกียร์สูงสุด
เป็นเกียร์ที่ใช้กับอัตราเร็วสูง แต่ให้กำลังน้อยที่สุดเราจะใช้เกียร์สูงสุดกับอัตราเร็วของรถยนต์ที่แตกต่างกันได้มา คุณสามารถใช้แล่นด้วยความเร็วคงที่บนถนนทางตรง
14. อย่าให้ไฟดวงหนึ่งดวงใดขาด
การใช้สัญญาณไฟจะทำให้รถคันอื่นที่ตามหลัง หรือสวนทางเข้าใจในเจตนาของเรา แต่หากไฟสัญญาณดวงหนึ่งดวงใดขาดไป จะทำให้เป็นอันตรายแก่การใช้รถใช้ถนน ควรตรวจสอบและหาฟิวส์ หรือไฟอะไหล่ไว้ในรถบ้าง
15. ไฟเตือนภัยมีความสำคัญ
อย่าขับรถยนต์ออกไปเด็ดขาด กรณีที่มีการเตือนของไฟบนแผงหน้าปัดขึ้น เช่น ไฟเตือนความดันน้ำมันหล่อลื่น เพราะจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
16. กระพริบไฟหน้าแทนแตร
การใช้ไฟสูง-ต่ำของไฟหน้า ทำให้เกิดการกระพริบสามารถเตือนผู้ขับขี่รายอื่นด้วย ที่คาดว่าจะไม่ได้ยินเสีสยแตรจากรถของเรา
17. อย่าปล่อยเกียร์ว่างให้รถเคลื่อนลงทางลาดเองไม่ถูกต้อง
การปล่อยให้รถไหลไปเองโดยไม่ใช้การขับเคลื่อนจะทำให้ควบคุมรถยนต์ยาก โดยเฉพาะพวงมาลัยและเบรคเกียร์จะเข้ายากขึ้นอีกด้วย
18. ลดเกียร์ไม่จำเป็นต้องไล่ตามลำดับ
การลดลงเกียร์ต่ำไม่จำเป็นต้องไล่ตามลำดับ เช่น จากเกียร์ห้ามาเกียร์สาม จากเกียร์สามมาเกียร์หนึ่ง เช่นนี้ จะทำให้เรามีเวลามองถนน และจับพวงมาลัยได้นานขึ้น
19. ใกล้ทางแยกอย่าเปลี่ยนเลนกะทันหัน
ต้องตัดสินใจให้ดีว่าคุณกำลังจะไปทางไหน ซ้าย-ขวา หรือตรง อย่าตัดเลนซ้ายมาขวา หรือขวามาซ้าย บริเวณใกล้ทางแยกจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือไม่ก็ถูกตำรวจจับแน่นอน
20. จะไม่มีการชนท้ายรถคนอื่นเด็ดขาด
ไม่ขับชิดคันหน้าเกินไปหรือกะระยะการทำงานของเบรคได้ถูกต้อง
21. สิ่งกีดขวางกลางถนน
บังเอิญสิ่งกีดขวางอยู่ในช่องจราจรของเรา ตามหลักเราต้องให้รถยนต์วิ่งสวนทางมาผ่านไปก่อน กรณีสิ่งกีดขวางอยู่ฝังตรงข้ามอย่าผลีผลามเหยียบคันเร่งเลยไป เพราะรถคันสวนทางเราอาจไมยอมหยุดรถและหลบสิ่งกีดขวางออกมาในเลนของเราหน้าตาเฉย
22. สิ่งกีดขวางอยู่บนเนิน
นับว่าเป็นเรื่องท้าทายให้ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ การใช้เบรคจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาจัดการแก้ปัญหานี้
23. แซงรถที่กำลังวิ่ง
ต้องเข้าใจว่ารถคันหน้าที่กำลังวิ่งด้วยความเร็วหนึ่งหากเราคิดจะแซง แน่นอนว่าความเร็วของรถเราต้องมากกว่า เมื่อหักลบกับความเร็วคันหน้าก็จะได้ระยะทางที่ต้องใช้ในการแซง นั่นก็คือ แซงรถกำลังวิ่งครั้งหนึ่งต้องใช้เวลามากกว่าปกติ ทางที่ดีไม่แน่ใจอย่าแซงจะดีกว่า
24. แซงระทางชัน
หากเป็นรถที่บรรทุกของหนักและวิ่งช้ากว่าเรา การแซงจะใช้เวลาสั้นลงอย่างมาก แต่พึงระวังรถสวนเลนตรงข้าม ซึ่งจะวิ่งลงทางลาดด้วยความเร็วสูง
25. อย่าเร่งรถหากกำลังถูกแซง
จะเป็นการผิดมารยาทอย่างยิ่ง หากรถของคุณที่กำลังถูกแซงเร่งเครื่องหนีด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น เมื่อเห็นว่ารถคันขวาของคุณกำลังจะถูกแซง ต้องชะลอความเร็วรถของคุณ เพื่อให้รถของเขาแซงขึ้นไปได้อย่างรวดเร็ว
26. ขับรถขึ้นเขา
กรณีขับรถขึ้นเขาหรือเนิน แน่นอนว่ารถของคุณต้องใช้กำลังเพิ่มมากขึ้น การขับต้องเปลี่ยนมาใช้เกียร์ต่ำกว่าเดิมเพื่อรักษาความเร็วของรถ การเปลี่ยนเกียร์ต้องเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เพราะขณะที่เรายกเท้าออกจากคันเร่งแล้วเหยียบคลัตช์เปลี่ยนเกียร์
27. ขับรถลงทางลาด
ขึ้นเนินใช้เกียร์ต่ำเพื่อรักษาความเร็วของรถ ลงทางลาดก็ต้องใช้เกียร์ต่ำ เพื่อลดอัตราเร็วของรถแทนการใช้เบรค เพราะหากใช้เบรคในทางลาดมากไป จะทำให้เบรคลื่นและจับไม่อยู่เนื่องจากมีความร้อนสูง
28. ออกตัวของรถขึ้นทางชัน
ผู้ขับขี่มือใหม่มักมีปัญหาการออกตัวขึ้นเนินแล้วรถเคลื่อนที่ถอยหลัง ต้องฝึกให้มีความสามารถในการใช้คันเร่งคลัตช์และเบรคมือพร้อมกัน โดยใช้เท้าซ้ายกดแป้นคลัตช์ลง โยกคันเกียร์จากเกียร์ว่างไปยังเกียร์หนึ่ง ใช้เท้าขวากดแป้นคันเร่ง โดยกดให้มากกว่าการออกตัวบนพื้นระดับ และต้องกดอย่างสม่ำเสมอตามปริมาณชองความชัน
29. จดรถหันหน้าขึ้นเนิน
หลีกเลี่ยงได้ควรหลีก แต่ถ้าจำเป็นต้องจอดให้ชิดขอบขวาทางด้านซ้ายมากที่สุด หมุนพวงมาลัยให้ล้อหันไปทางขวาป้องกันการเคลื่อนที่ถอยหลังเป็นเกียร์หนึ่งและใช้เบรคมือให้มั่นคง
30. จอดรถหันหน้าลงเนิน
หมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายให้ล้อหันเข้าหาขอบทางเท้า ป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนที่เดินหน้าใส่เกียร์ถอยหลังและเบรคมือไว้
31. ทางโค้งนะ
ให้สังเกตป้ายจราจรว่า โค้งไปทางขวาหรือทางซ้าย การเข้าโค้งให้ใช้เบรคเท้าควบคุมความเร็วของรถ เลือกเกียร์ให้เหมาะสมใช้คันเร่งอย่างระมัดระวังและบังคับรถให้ชิดเส้นแบ่งถนนทางขวาไว้จนตลอดทางโค้ง
32. ระวังหลุดโค้ง
ปรกติทางโค้งจะมีทั้งป้ายจราจรเตือนล่วงหน้าและมีเสาหลักปักตามระยะโค้ง แต่หากผู้ขับขี่ไม่ควบคุมความเร็วเข้าโค้งด้วยความโค้ง โค้งธรรมดาก็จะกลายเป็นโค้งหักศอกให้ได้รับอันตรายให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ
33. ความดันลมของยางสัมพันธ์กับพวงมาลัย
ยางรถยนต์จะต้องมีความดันลมในปริมาณพอเหมาะไม่มากหรือน้อยเกินไปถ้ามากไปทำให้ยากสึกหรอ ไม่ยึดถนนและลื่นไถลทางโค้งแต่หากความดันลมยางน้อยไปจะทำให้ยางร้อนจัดยางไม่เกาะถนนและสึกหรอง่าย สังเกตว่าความดันลมยางน้อยไปเมื่อพวงมาลัยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
34. เบรคบนทางโค้งอันตราย!
ควรหลีกเลี่ยงการใช้เบรคบนถนนทางโค้ง เพราะจะทำให้รถยนต์เสียการทรงตัวและมีแนวโน้มลื่นไถลหลุดโค้งออกไป
35. รถใหญ่บังรถเล็ก
รถใหญ่ที่วิ่งตามทางแยกอาจบังรถเล็กอีกคันที่กำลัง แซงขึ้นมา หากเราตัดสินใจเลี้ยวออกจากทางแยกแบบปัจจุบันทันด่วน โดยไม่ระวังให้ดี อาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
36. ถอยหลังทางไหนหมุนพวงมาลัยทางนั้น
การถอยหลังรถแรก ๆ อาจจะดูไม่ถนัด ต้องอาศัยประสบการณ์ โดยมีเคล็ดลับอยู่ว่าจะให้ส่วนท้ายของรถหันไปทางไหนก็หมุนพวงมาลัยไปทางนั้น ส่วนผู้ขับก็เอี้ยวตัวไปดูข้างหลังโดยมือถือพวงมาลัยมือหนึ่ง อีกมือพาดบนพนักพิงผู้โดยสาร
37. ข้อห้ามของการถอยหลัง
อย่าใช้วิธีกลับรถโดยการถอยหลังจากถนนซอยสู่ถนนใหญ่ เมื่อไม่แน่ใจว่าปลอดภัย อย่าถอยหลังและอย่าถอยหลังเป็นระยะทางไกล ๆ โดยไม่จำเป็น
38. ไฟเขียวให้รีบไปแน่หรือ
การขับรถบริเวณทางแยกที่มีไฟจราจรกำกับและเป็นไฟเขียวอยู่ ไม่ตะบี้ตะบันเหยียบคันเร่งให้ทันสัญญาณไฟ ควรสังเกตดูว่าไฟเขียวนั้นนานแค่ไหน แล้วสังเกตดูว่ารถจากถนนฝั่งหนึ่งมีแถวยาวเท่าใน และควรขับรถเว้นระยะกับรถคันหลังดูว่าหากเบรคกะทันหัน กรณีไม่ทันไฟเขียว แล้วคุณจะไม่ถูกชนท้าย
39. รีบร้อนไปไหนยังไฟแดงอยู่เลย
ผู้ขับขี่หลายรายต้องเสียอกเสียใจทุกวันนี้ เพราะประสบอุบัติเหตุ เนื่องจากชอบออกรถในขณะที่สัญญาณไฟยังเป็นไฟแดงหรือเหลืองอยู่ โดยคาดเดาล่วงหน้าเกี่ยวกับการเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจร ในขณะที่รถอีกฝั่งยังไฟแดงอาศัยลูกติดพันจากไฟเขียว ผลก็คือ ประสานงากันจังเบ้อเริ่ม เดือดร้อนกันทั่วหน้า
40. ถูกจี้ท้ายและเตือนด้วยไฟสูงต่ำ
หลายคนคงเคยเจอนักเลงกลางถนน โดยขับขี่อยู่ ดี ๆก็มีรถคันอื่นมาจี้ท้ายแถมใช้ไฟสูงต่ำยิงใส่ท้ายรถ อย่าตกใจและห้ามตอบโต้เด็ดขาด เพียงแต่ค่อย ๆ เปลี่ยนช่องจราจรไปทางซ้าย เพื่อให้เกิดช่องว่างให้รถคันหลังผ่านไปได้
41. กระจกหน้ารถต้องสะอาดอยู่เสมอ
กระจกหน้ารถที่สะอาด เมื่อเวลาฝนตก ใบปัดน้ำฝนจะทำความสะอาดได้เร็วมากขึ้นมาก ควรลดอัตราเร็วลงหากอุปกรณ์ปัดน้ำฝนทำงานไม่ทันกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
42. ไม่แตะเบรคขณะรถลื่นไถล
กรณีรถขาดการทรงตัว เมื่อเจอสภาพถนนมีน้ำมันเกลื่อนกลาดอย่าตกใจยกเท้าออกจากคันเร่งและหมุนพวงมาลัยไปในทิศทางเดียวกับทิศทางการลื่นไถลโดยห้ามแตะเบรคโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก
43. อย่าเพิ่งดับไฟขณะรุ่งสาง
การรีบดับไฟเมื่อขับรถตอนรุ่งสางไม่เป็นผลดีต้องให้แน่ใจว่าคุณสามารถมองเห็นถนนและผู้ขับขี่คันอื่นอย่างชัดเจนเสียก่อนจึงค่อยดับไฟ กรณีรถมีสีคล้ำ ดำหรือน้ำเงิน ซึ่งไม่ค่อยสะท้อนแสงต้องเปิดไฟแต่เนิ่น ๆ เมื่อเริ่มจะมืดและปิดไฟช้ากว่าคันอื่นเมื่อเวลารุ่งสาง
44. การใช้น้ำมันหล่อลื่น
การเติมน้ำมันหล่อลื่นต้องรักษาปริมาณให้ถึงขีดกำหนดของรถเสมอ น้ำมันหล่อลื่นเป็นสารอันตรายต่อผิวหนัง ควรล้างมือทันทีและเก็บภาชนะบรรจุน้ำมันให้ห่างไกลจากมือเด็ก
45. รถเสียระวังเสียงรถ
เมื่อรถคุณเกิดเสียกลางทางแล้วมีอาสาสมัครเสนอตัวให้ความช่วยเหลือ หากคุณไม่แน่ใจพฤติกรรมอย่าลงจากรถเด็ดขาด ให้ผู้ผ่านกระจกแล้วล็อคประตูไว้วานให้ช่วยไปโทรศัพท์หาผู้ที่คุณต้องการจะติดต่อด้วยจะดีที่สุด
46. อุปกรณ์พยาบาลที่ควรจะมีในรถ
เพื่อความปลอดภัยเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉน คุณควรมีสิ่งเหล่านี้ไว้ในรถ พลาสเตอร์, ผ้าพันแผล ขวดพลาสติคใส่น้ำสะอาดไว้ กรรไกร คีม ผ้าพันแผลแบบยืดหดได้ โคมไฟฟ้า เหรียญ(สำหรับโทรศัพท์)
47. เด็กเล็กก็ควรคาดเข็มขัด
อุบัติเหตุหลายครั้งเด็กเล็กต้องเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจำนวนมาก ในเมืองนอกได้ออกแบบที่นั่งเฉพาะสำหรับเด็กไว้อย่างมาตรฐาน โดยเฉพาะมีเข็มขัดนิรภัยให้เด็กคาดเข็มขัดด้วย สำหรับเมืองไทยที่ยังไม่มีที่นั่งเด็กแพร่หลาย ก็อาศัยพี่เลี้ยงหรือผู้โดยสารไปด้วยคอยดูแล อย่าปล่อยให้เด็กเป็นอิสระเด็ดขาด
48. ทำยังไงเมื่อกระจกหน้ารถแตกละเอียด
อุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นได้เมื่อรถแล่นด้วยความเร็วสูง ต้องควบคุมสติให้ได้ผ่นอคันเร่งหาที่จอดอย่าปลอดภัย หากระดาษหนังสือพิมพ์มาคลุมหน้าปัดรถและกระโปรงรถใกล้กระจกหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้เศษกระจกปลิวเข้ามา แล้วจึงหาอะไรมาค่อย ๆ ทุบกระจกที่แตกค้างออก แล้วขับรถไปหาอู่ซ่อมโดยเร็ว
49. เบรคจม
อุบัติเหตุบางครั้งเกิดจากการที่อยู่ดี ๆ คันเบรคก็จมซึ่งทำให้การหยุดรถทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เป็นเช่นนี้ให้ลดความเร็วลงค่อย ๆ ปั๊มเบรคสองสามครั้งเพื่อให้ความร้อนไปไล่ฟองอากาศและความชื้นจากนั้นจึงค่อย ๆ ขับไปด้วยควมเร็วเป็นปกติ
50. น้ำมันท่วม
รถที่จอดนิ่งอยู่สตาร์ทหลายทีก็ไม่ติด แถมยังได้กลิ่นฉุนของน้ำมันแสดงว่าน้ำมันได้ท่วมคาร์บูเรเตอร์ แล้วควาคอยอย่างน้อยสิบนาที เพื่อให้น้ำมันระเหยแล้วเริ่มติดเครื่องใหม่อีกครั้ง
51. อาการแบตเตอรี่หมด
อีกกรณีที่สตาร์ทเครื่องรถไม่ติด แล้วไฟหน้ารถไม่สว่างให้สันนิษฐานได้ว่าแบตเตอรี่หมดให้ชาร์จใหม่ได้ทันที หากทำไม่เป็นก็ตามช่างหรือติดต่อศูนย์ที่คุณซื้อรถก็ได้
52. ความร้อนสูงผิดปกติ
สังเกตุได้จาก เข็มชี้ระดับความร้อนที่หน้าปัดขึ้นสูงกว่าธรรมดา อย่าขับรถต่อไป เพราะจะทำให้รถได้รับความเสียหายร้ายแรงได้ ต้องหาที่ร่มจอดรถ เปิดฝากระโปรงทิ้วไว้รอจนกว่าเครื่องยนต์จะเย็นลงในระดับปรกติจึงค่อยเดินทางต่อไป กรณีที่เกิดจากน้ำมในหม้อน้ำพร่องไป ต้องรออย่างน้อย 10 นาทีถึงจะเปิดฝาหม้อน้ำเติมน้ำได้
53. เบรคเสียกะทันหัน
เบรคที่ถูกใช้มากในบางกรณี อาจทำให้เสียหรือผ้าเบรคสึกมีผลให้รถเบรคไม่ค่อยอยู่ วิธีแก้ไขคือ ให้จอดรถชั่วคราวเพื่อให้เบรคพักการทำงานระยะหนึ่ง
54. หัดเปลี่ยนยางไว้บ้างก็ดี
กรณีที่เราขับรถออกทางไกลที่เปลี่ยว ๆ ห่างจากปั๊มน้ำมันข้างทางแล้วเกิดยางรั่วยางแตก การเปลี่ยนยางอะไหล่ต้องใช้ความสามารถของตนเอง การศึกษาวิธีการเปลี่ยนจากคู่มือ และหัดลองเปลี่ยนขณะจอดรถอยู่ให้คล่อง มิฉะนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว มีหวังคุณได้นอนหง่าวอยู่ในรถคนเดียวทั้งคืนแน่
55. ฟิวส์ซองบุหรี่
ระบบไฟฟ้าของรถใช้ฟิวส์เป็นตัวเชื่อมไฟ หากฟิวส์เกิดขาดกะทันหัน แก้ปัญหาได้โดยใช้กระดาษตะกั่วห่อซองบุหรี่หรือกระดาษห่อช็อกโกแล็ตมาหุ้มฟิวส์นั้นแล้วนำไปใช้ต่อฟิวส์นั้นก็จะทำงานได้ชั่วคราว
56. ยางโดนตะปูเจาะ
ประการแรกให้เปลี่ยนยางอะไหล่ทันที ถ้าไม่มียางอะไหล่ สำรวจยางเส้นนั้นว่ามียางในหรือไม่ ประการสำคัญไม่ควรดึงตะปูออกก่อนจะทำให้เวลาขับเคลื่อนรถ ยางจะแตก ระเบิดได้ ควรขับออกไปช้า ๆ อย่างระมัดระวังประคับประคองให้ไปถึงอู่หรือปั๊ม ทำการปะให้เรียบร้อย
57. ตรวจสนิมรถด้วยแม่เหล็ก
รถปัจจุบันส่วนใหญ่ตัวถังจะฉาบด้วยยากันสนิม ซึ่งเป็นฉนวน บริเวณที่กระเทาะแล้วเกิดสนิม จะทำให้เกิดแรงดึงดูดกับแม่เหล็ก
58. เรื่องของสีรถ
หากสีรถเกิดถลอกและเป็นสนิม หรือมีปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับสีรถไม่ควรลงมือแก้ไขเอง เช่น เช็ด ขูด ควรนำรถเข้าอู่ ให้ช่างที่มีความชำนาญดูแล มิฉะนั้นจะทำให้เกิดรอยด่างของสีรถได้
59. รถติดอย่าหยุดติดรถ
ปัญหารถติดบ้านเราเลี่ยงกันไม่พ้น ขณะขับรถไปต่อคันที่หยุดข้างหน้าควรเว้นช่วงไว้ให้ห่างพอที่รถจะเคลื่อนตัวไปซ้ายขวาได้ เป็นการเผื่อเอาไว้หากเกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายด้านหน้ารถจะได้ไม่ถูกอัดก๊อปปี้เสียหายทั้งรถและชีวิต
60. ยางอะไหล่ต้องพร้อมเสมอ
รถเกือบทุกคันก็มักมียางอะไหล่ติดไว้เสมอ อย่าลืมที่จะตรวจสอบสภาพของยางอะไหล่บ้าง เป็นต้นว่าลมยางต้องมีความดันมาตรฐานเสมอ ไม่อ่อนจนเกินไป เพราะหากเกิดฉุกเฉินขึ้นมา ยางอะไหล่รั่วหรือแตก สถานการณ์จะเลวร้ายไปกันใหญ่
61. กรวยเติมน้ำมันฉุกเฉิน
น้ำมันแห้งสนิทกลางทาง ซื้อน้ำมันใส่แกลลอนมาแต่ดันลืมติดกรวยมาด้วย ไม่ยากเลย เพียงหาถ้วยใส่น้ำอัดลมพลาสติค ผ่าแล้วม้วนเป็นรูปกรวยมาเป็นที่เติมหรือใช้กระดาษทบกันหลาย ๆ ชั้น มาพับเป็นรูปกรวยก็ได้พอจะแก้ขัดไปครั้งหนึ่ง
62. รอยเปื้อนกระจกหน้ารถจากตัวแมลงหรือน้ำที่กระเด็นใส่
แก้ไขด้วยใช้ฟองน้ำชุปเบ็คกิ้งโซดา แล้วเอาฟองน้ำสะอาดเช็ดกระจกจนแห้ง ผงเบ็คกิ้งโซดาจะไม่ทำให้กระจกเป็นรอยใช้ทำความสะอาดไฟหน้าไฟท้ายและกันชนได้
63. ยางรถยนต์เก่าก็มีประโยชน์
ยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้แล้ว นำไปผูกแขวนไว้ในโรงรถตรงที่หัวรถจะแล่นเข้าจอด ยางจะเป็นกันชนเมื่อเวลาเราถอยรถเข้าเก็บในที่จอดรถ
64. ตรวจเบรคก่อนจะไม่ได้เบรค
จะรู้ว่าเบรคใช้งานได้หรือไม่ ก็ต้องออกรถเคลื่อนที่ ซึ่งอันตรายมากหากรถไปอยู่บนท้องถนน แต่มีวิธีตรวจสอบขณะรถอยู่กับที่ โดยลองเหยียบเบรคประมาณ 1 นาที เมื่อเริ่มติดเครื่องยนต์ หากแป้นเหยียบเบรคอยู่ในตำแหน่งใกล้ติดพื้น เบรคของเรามีปัญหาแน่ ๆ เข้าอู่แก้ไขก่อนจะดีที่สุด
65. อย่าปล่อยให้โรงรถมีกลิ่นอับ
มีหลายบ้านที่ทำโรงเก็บรถเป็นโรงทึบ กรณีนี้หากโรงรถมีกลิ่นอับให้ใช้ถุงผ้าใส่ถ่านไม้ผูกให้แน่น นำไปแขวนไว้จะช่วยขจัดกลิ่นเหม็นได้อย่างดี
66. เทคนิคล้างรถไม่ต้องเช็ด
หลังจากล้างรถแล้ว น้ำสุดท้ายที่จะล้างให้ผสมน้ำยาล้างจานลงในถังด้วย ใช้ฟองน้ำชุบถูให้ทั่วคันรถทิ้งไว้ให้แห้งเองไม่ต้องใช้ผ้าขนหนูเช็ดเหมือนวิธีเก่า เท่านี้รถก็จะขึ้นเงาเอง
67. กลิ่นเหม็นอับในรถยนต์
ขจัดให้หายได้ โดยใส่เบ็คกิ้งโซดาลงในที่เขี่ยบุหรี่ของรถ 1 ช้อนโต๊ะ หลังจากทำความสะอาดแล้ว หรืออาจใช้เบ็คกิ้งโซดาเช็ดถูเบาะ พรม ให้สะอาดได้ด้วยเบ็คกิ้งโซดาจะช่วยขจัดหลิ่นไม่ดีออกได้หมด
68. กำจัดแมลงที่ติดฝาครอบรถยนต์และตะแกรงหน้ารถ
ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้สเปรย์พ่นยุงพ่นที่ฝาครอบรถและตะแกรงหน้ารถตัวแมลงเล็ก ๆ ก็จะหลุดออกง่าย และไม่ทำลายความเป็นเงาของสีรถ
69. ขจัดคราบน้ำมันบนตัวถังรถ
ใช้ฟองน้ำจุ่มลงในน้ำผสมเบ็คกิ้งโซดาทาตรงบริเวณที่มีคราบน้ำมันจับ คราบน้ำมันจะหลุดออกอย่างง่ายดายไม่กระทบกระเทือนสีรถด้วย
70. ยางมะตอยติดล้อรถ
หากคุณเผลอไผลหรือหลบเลี่ยงไม่ได้ ต้องขับรถเข้าไปในบริเวณที่มีการซ่อมถนนอยู่และมีการราดยางมะตอยใหม่ ๆ ยางมะตอยหรือน้ำมันดิบที่เปรอะเปื้อล้อรถและตัวถัง ให้ใช้เบ็คกิ้งโซดาละลายรอยเปื้อนต่าง ๆ ก็จะออกได้
71. คลื่นรบกวนวิทยุ
เกิดขึ้นหลายกรณี เพราะรถของเราเคลื่อนที่ตลอดเวลา โอกาสที่จะจับให้คลื่นคงที่คงเป็นไปได้ยาก แต่อาจเกิดจากเสาอากาศวิทยุเป็นสนิม คงต้องหมั่นดูแลโดยใช้น้ำมันหล่อลื่นเช็ดด้วยความระมัดระวังให้ทั่ว วิทยุก็อาจมีคลื่นรบกวนน้อยลง ฟังดูชัดขึ้นก็ได้
72. อย่าใช้น้ำทำความสะอาดไฟรถ
น้ำจะทำให้เกิดความชื้นและทำให้เกิดสนิม เป็นปัญหาต่อเนื่องให้เกิดไฟช็อต จึงควรใช้เมทิลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดแทนซึ่งจะขจัดคราบสกปรกและรอยต่างๆ ได้ดีกว่าอีกด้วย
73. บำรุงรักษาแอร์รถ
รถที่จอดไว้เฉย ไม่ติดเครื่องนานหลายสัปดาห์ นอกจากจะมีปัญหาที่เครื่องยนต์ แอร์ก็มีปัญหาด้วย ควรเปิดแอร์ทิ้งไว้บ้างอย่างน้อย 10 นาทีต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาทำความเย็นไหลแยกออกมาจนต้องเสียค่าใช้จ่ายเติมน้ำยาใหม่
74. ฝาน้ำมันควรใช้แบบที่ล็อคได้
เป็นการป้องกันการที่ผู้อื่นจะนำรถของคุณออกไปใช้การล็อคฝาน้ำมันจะทำให้เติมน้ำมันไม่ได้ เมื่อน้ำมันหมดถัง ขโมยไปก็ไม่มีประโยชน์
75. ท่อไอเสียชำรุด
มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ เมื่อออกรถไปได้ขณะหนึ่ง แล้วท่อไอเสีสยขาดครูดไปกับท้องถนน ต้องซ่อมเดี๋ยวนั้นโดยผูกมัดด้วยลวดให้ใช้งานได้ชั่วคราวก่อน อย่าใช้เชือกผูกเด็ดขาด เพราะความร้อนจะทำให้เชือกขาดอีกครั้ง
76. ระดับของน้ำมันเครื่อง
ควรเติมให้ต่ำกว่าระดับขีดของด้ามวัดเล็กน้อย หากเครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ มิฉะนั้นหากเมื่อคุณติดเครื่อง น้ำมันเครื่องอาจขยายตัวล้นออกมาได้
77. ป้องกันสีรถจากโรงรถ
สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ผู้ขับขี่ที่มีโรงรถแคบ ๆ ใหญ่กว่ารถไม่เท่าไหร่ให้มีฝีมือยังไงสักวันก็ต้องพลาดเฉี่ยวขูดสีรถถลอกทางที่ดีควรหาโฟมบาง ๆมาติดกาวข้างกำแพงรถไว้สองข้าง ป้องกันไว้ดีกว่าแก้
78. ดินโคลนเจ้าปัญหา
อย่าปล่อยให้ดินโคลนติดอยู่กับรถตลอดเวลา ควรเอาใจใส่ทุก ๆ จุดแม้ใต้ท้องรถที่คิดว่าดินโคลนจะไปจับเกาะติดไว้ ต้องล้างและฉีดด้วยสายยางออกให้หมดเพราะดินโคลนจะทำให้รถเป็นสนิมได้
79. ขัดสีรถให้เงางามอยู่เสมอ
รถที่ซื้อมาใหม่ ๆ สีเงางามน่าใช้ ขับไประยะเวลาหนึ่งสารเคมีที่ใช้ล้าง และแสงแดดจะทำให้สีของรถหมองไปควรนำรถไปขัดสีตามอู่หรือศูนย์อย่างน้อยปีละ 4 ครั้ง สีของรถคุณก็จะเงางามอยู่เสมอ
80. ดอกยางมาตรฐาน
ดอกยางที่ดีที่ถือว่าเกาะถนนได้เยี่ยม ต้องมีขนาดอย่างน้อย 3-5 มม.หากน้อยกว่านี้ถือว่าใช้ไม่ได้และผิดกฏหมาย เพราะจะจับถนนไม่ได้มีผลให้ตอนเบรคมไม่สนิทอยู่กับที่
81. ถนอมยางรถให้ใช้งานได้นาน
ล้อรถสามารถสลับตำแหน่งกันได้ ควรเปลี่ยนตำแหน่งของมันจากข้างหน้ามาข้างหลังทุก ๆ 10,000 กม. แต่ไม่ควรสลับจากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งจะเกิดอันตรายเวลารถเคลื่อนที่เร็ว ๆ ได้
82. ล้างรถอาทิตย์ละครั้ง
ผู้ใช้รถบางคนมีปัญหากับการล้างรถ ไม่มีเวลาบ้างขี้เกียจบ้าง ควรล้างรถอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อขจัดเศษดินและหินที่เกาะติดกับรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้รถอยู่บริเวณที่อยู่ในเขตอุตสากรรมหรือใกล้ชายทะเลควรล้างบ่อยครั้งขึ้น เพราะเกลือและความเค็มจากชายทะเลจะจับผิวของรถทำให้รถเสียหายเร็วขึ้น
83. ขจัดกลิ่นรถใหม่
รถใหม่ป้ายแดงคุณอาจจะรำคาญกลิ่นพลาสติกที่เหม็นรุนแรงแก้ปัญหาได้โดยใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำมาชโลมให้ทั่วภายในรถแล้วเช็ดให้สะอาด
84. คราบสติ๊กเกอร์บนกระจก
รถบ้านเราชอบตกแต่งด้วยสติ๊กเกอร์ตามกระจกหลังหากต้องการเลาะออกให้เป็นสภาพดังเดิม ใช้มีดโกนหนวดบางมารีดเลาะออก แล้วใช้สำลีชุบน้ำยาทาเล็บมาล้างคราบสติ๊กเกอร์ ครู่เดียวก็จะละลายออกหมด จากนั้นจึงใช้เมทิลแอลกอฮอล์เช็ดกระจกอีกทีแค่นี้ก็เรียบร้อย
85. ป้องกันขนสุนัขร่วงในรถ
หากคุณมีความจำเป็นต้องพาสุนัขไปกับคุณด้วยการใช้เสื้อผ้าสำหรับสุนัขที่มีขายตามท้องตลาด จะแก้การใช้เสื้อผ้าสำหรับสุนัขที่มีขายตามท้องตลาด จะแก้ปัญหาไม่ให้ขนสุนัขร่วงลงรถชั่วขณะ แม้มันจะรำคาญบ้างก็อย่าไปยอมถอดให้มัน
86. กุญแจสำรอง
ไม่มีใครที่ขับรถแล้วไม่เคยลืมกุญแจไว้ในรถ กุญแจสำรองจึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง คุณควรนำติดตัวไว้อยู่เสมอ เมื่อเวลาคุณล็อกหรือทำกุญแจหายก็จะไม่เดือดร้อน
87. ปล่อยให้เขาแทรกบ้างเพื่อน้ำใจ
การขับรถบนท้องถนน โดยเฉพาะบริเวณที่มีรถติดการขอเข้าแทรกของรถคันอื่นข้างหน้าเราจะเจอบ่อยครั้งหากเราอารมณ์เย็นสักหน่อย พยายามมองโลกในแง่ดีปล่อยให้เขาแทรกเข้าไปบ้าง ก็จะทำให้การใช้ถนนของคุณวันนั้นราบรื่น ไม่ต้องคอยฟังเสียงอาฆาตมาดร้ายจากรถคันอื่นให้เสียอารมณ์เปล่า ๆ
88. ขจัดกลิ่นของเบาะหนัง
เบาะหนังในรถของคุณใช้ไปนาน ๆ อาจมีกลิ่นไม่ดีออกมาให้ผสมโซดาไบคาร์บอเนตหนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำ 500 มล. มาทำความสะอาดให้ทั่วจะช่วยลดกลิ่นเบาะให้ทุเลาลง
89. หม้อน้ำรั่วกะทันหัน
การแก้ไขหม้อน้ำรั่วแบบชั่วคราว โดยการหาอะไรก็ได้มาอุดรอยรั่วไม่ให้น้ำรั่วซึมออกมา โดยใช้คลั่ง ดินน้ำมันหรือหมากฝรั่งที่เราเคี้ยวแล้วก็ได้
90. มีปัญหากับจราจร
การใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงไม่ให้มีปัญหากับตำรวจจราจรนั้นยากมาก เมื่อถูกเรียกให้รถคุณหยุดข้างทาง และกำลังจะแจ้งข้อกล่าวหา คุณไม่ควรแสดงอาการต่อต้านโต้เถียงรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ควรพูดคำสุภาพควบคุมมารยาทเอาไว้ เหตุร้ายอาจกลายเป็นดีได้
91. ทำความสะอาดเบาะผ้ากำมะหยี่
รถสมัยนี้เฟอร์นิเจอร์ข้างในใช้วัสดุหลายชนิด เบาะนั่งเป็นผ้ากำมะหยี่เวลาทำความสะอาด ต้องใช้เครื่องดูดฝุ่น ไม้กวาดหรือไม้ขนไก่ทำความสะอาดได้ไม่หมด
92. ลบรอยขีดข่วนบนกระจกหน้ารถ
ใช้บราสโซขัดทองเหลืองหรือยาสีฟันทาให้ทั่วรอยขีดข่วน แล้วใช้ผ้าแห้งถูออก อาจต้องทำหลายครั้งจะดูดีขึ้น จากนั้นก็ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เช็ดทำความสะอาดเป็นครั้งสุดท้าย ก็จะได้กระจกหน้ารถที่ดูใสแวววาว
วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557
Error Code ของเครื่อง Canon MP237 และวิธีแก้ไข
อาการไฟกระพริบที่เครื่อง Canon MP237 และ Error Code ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
1. Error 1000 : ไฟกระพริบ 2 ครั้ง สาเหตุ ไม่ได้ใส่กระดาษ / เครื่องไม่ดึงกระดาษ
2. Error 1300 : ไฟกระพริบ 3 ครั้ง สาเหตุ มีกระดาษติดหรือเศษอะไรหล่นในเครื่อง
3. Error 1687 : ไฟกระพริบ 4 ครั้ง สาเหตุ แผงวงจรสกปรกหรือหัวพิมพ์เสีย
4. Error 1401, 1403,1485 : ไฟกระพริบ 5 ครั้ง สาเหตุ ตลับหมึกไม่ได้ติดตั้งแผงวงจรไม่สัมผัส แผงวงจรสกปรกหรือหัวพิมพ์เสีย
5. Error 1486,1486 : ไฟกระพริบ 7 ครั้ง สาเหตุ ตลับหมึกไม่ได้ติดตั้งในตำแหน่งที่ถูกต้อง หรือหัวพิมพ์เสีย
6. Error 1700 : ไฟกระพริบ 8 ครั้ง สาเหตุ ฟองน้ำซับหมึกใกล้เต็ม ให้กดปุ่ม Start เครื่องจะใช้งานต่อได้อีกระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นให้นำเข้าศูนย์บริการเพื่อเคลียร์ค่า
7. Error 1686 : ไฟกระพริบ 13 ครั้ง สาเหตุ หมึกแท้ ในตลับหมดให้กดปุ่ม Stop ค้างไว้ 10 วินาที
8. Error 1684 : ไฟกระพริบ 14 ครั้ง สาเหตุ ตลับหมึกมีปัญหา /ตลับเสีย
9. Error 1682 : ไฟกระพริบ 15 ครั้ง สาเหตุ ตลับหมึกมีปัญหา /ตลับเสีย
10. Error 1688 : ไฟกระพริบ 16 ครั้ง สาเหตุ หมึกแท้ ในตลับหมดให้กดป่ม Stop ค้างไว้ 10 วินาที
ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก : http://computesupport.wordpress.com/2013/09/16/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88/
วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557
การกู้คืนไฟล์จาก Quarantine ที่ NOD32 ลบไป
ปัญหาที่โปรแกรม NOD32 ลบไฟล์ของเราไป
ทำให้เราต้องไปหาไฟล์เหล่านั้นกลับมาใหม่บ้าง หรือไม่ก็ลบโปรแกรม NOD32
ออกจากเครื่องไปเลย หรือไม่บางครั้งก็ Disable การทำงานของ NOD32
ซึ่งเสี่ยงต่อการที่ไวรัสต่าง ๆ จะเข้ามาในเครื่อง วิธีการทำไม่ยากครับ (สามารถกดคลิ๊กที่รูปเพื่อขยายขนาดภาพได้)
วันนี้ผมมีวิธีการกู้คืนไฟล์ต่าง ๆ ที่ NOD32 ลบไปกลับคืนมาครับ
1.เปิดโปรมขึ้นมาก่อนครับ
2. จากนั้นกดปุ่ม F5 เพื่อเรียกหน้าต่าง set up ของโปรแกรม NOD32 ขึ้นมาครับ
วันนี้ผมมีวิธีการกู้คืนไฟล์ต่าง ๆ ที่ NOD32 ลบไปกลับคืนมาครับ
1.เปิดโปรมขึ้นมาก่อนครับ
2. จากนั้นกดปุ่ม F5 เพื่อเรียกหน้าต่าง set up ของโปรแกรม NOD32 ขึ้นมาครับ
3. กดเลือกที่ Quarantine ก็จะเห็นไฟล์ต่าง ๆ อยู่ทางขวามือ กดคลิ๊กขวาที่ไฟล์แล้วเลือก RESTORE
ปัญหา NOD32 ลบไฟล์ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ไวรัส
เพื่อน ๆ เคยเจอไหมครับ ไฟล์บ้างไฟล์มันไม่ใช่ไวรัส และเป็นไฟล์สำคัญสำหรับบางโปรแกรม หรือ Crack ของเกมส์
ไอ้เจ้า NOD32 มันใจดีเลยไปลบไฟล์ให้ วันนี้เรามีวิธีแก้มาให้ทุก ๆ คนครับ
วิธีการทำไม่ยากครับ (สามารถกดคลิ๊กที่รูปเพื่อขยายขนาดภาพได้)
1. เปิดโปรแกรมขึ้นมาก่อนครับ
วิธีการทำไม่ยากครับ (สามารถกดคลิ๊กที่รูปเพื่อขยายขนาดภาพได้)
1. เปิดโปรแกรมขึ้นมาก่อนครับ
2. จากนั้นกดปุ่ม F5 เพื่อเรียกหน้าต่าง set up ของโปรแกรม NOD32 ขึ้นมาครับ
3. คลิ๊กที่ Exclusions ครับ จากนั้นกด Add
4. กดค้นหาไฟล์ที่เราต้องการได้เลยครับ จากนั้นกดปุ่ม OK
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเพื่อนที่ใช้ anti virus ของ NOD32
ต่อไปนี้รับรองได้เลยครับว่า ไฟล์ต่าง ๆ เหล่านี้ เจ้าโปรแกรม NOD32 มันจะไม่มีการลบไฟล์ทีี่่ไม่ใช่ไวรัสอีกแน่นอนครับวันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557
แผ่นพับ และ ไฟล์สำหรับทำแฟ้มประวัติส่วนตัว (Portfolio)
แผ่นพับ และ ไฟล์สำหรับทำแฟ้มประวัติส่วนตัว (Portfolio)
สำหรับสัมภาษณ์ครูผู้ช่วย หรือสมัครงาน
ดาว์นโหลด >>> แฟ้มประวัติส่วนตัว (Portfolio)
ดาว์นโหลด >>> แผ่นผับ
วิธีการดาว์นโหลดไฟล์
สำหรับสัมภาษณ์ครูผู้ช่วย หรือสมัครงาน
ดาว์นโหลด >>> แฟ้มประวัติส่วนตัว (Portfolio)
ดาว์นโหลด >>> แผ่นผับ
วิธีการดาว์นโหลดไฟล์
1. คลิ๊กที่ไฟล์ 2. คลิ๊กที่ดาว์นโหลด องค์ประกอบและตัวชี้วัด การประเมินการสัมภาษณ์ครับ |
วิธีกำหนดให้ IIS โชว์ Error
วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557
ตัวอย่าง โค้ด ASP ที่ใช้บ่อย
โค้ดสำหรับแสดงวันที่
<%=FormatDateTime(rs("bdate"),1)%>
ตัวอย่างการแสดงผล
16 มกราคม 2557
โค้ดสำหรับการ Edit ข้อมูล (ขั้นตอนการบันทึกลงฐานข้อมูล)
<%
studentid=session("studentid")
studentname=session("studentname")
studentlastname=session("studentlastname")
studentclass=session("studentclass")
studentroom=session("studentroom")
Set Conn=Server.CreateObject("ADODB.Connection")
conn.open "DRIVER={MySQL ODBC 3.51 Driver};SERVER=localhost;DATABASE=wastebank;UID=root;PWD=;OPTION=3"
Set rs = Server.CreateObject("ADODB.Recordset")
rs.Open "select * from student where studentid = '"+studentid+"' ;" , conn,1,3
if not(rs.bof and rs.eof) Then
rs("studentname")=studentname
rs("studentlastname")=studentlastname
rs("studentclass")=studentclass
rs("studentroom")=studentroom
rs.update
response.redirect("searchstudent.asp")
else
response.write "Not Found Data"
end if
%>
โค้ดสำหรับการแสดงค่า โดยมีการ Relationship
<%
Set Conn=Server.CreateObject("ADODB.Connection")
conn.open "DRIVER={MySQL ODBC 3.51 Driver};SERVER=localhost;DATABASE=wastebank;UID=root;PWD=;OPTION=3"
Set rs = Server.CreateObject("ADODB.Recordset")
rs.Open "select * from sale", conn,1,3
%>
<%
i=1
Do While Not rs.eof
studentid=rs("studentid")
bankmanagerid=rs("bankmanagerid")
trashid=rs("trashid")
%>
<%
Set Conn=Server.CreateObject("ADODB.Connection")
conn.open "DRIVER={MySQL ODBC 3.51 Driver};SERVER=localhost;DATABASE=wastebank;UID=root;PWD=;OPTION=3"
Set rs3 = Server.CreateObject("ADODB.Recordset")
rs3.Open "select * from student where studentid = '"&studentid&"' " , conn,1,3
%>
<%Do While Not rs3.eof%>
<%=rs3("studentname")%> <%=rs3("studentlastname")%>
<%
rs3.movenext
Loop
%>
<%
i=i+1
rs.movenext
Loop
%>
โค้ดสำหรับการเชื่อมต่อฐานข้อมูลแบบต่าง ๆ
<%=FormatDateTime(rs("bdate"),1)%>
ตัวอย่างการแสดงผล
16 มกราคม 2557
โค้ดสำหรับการ Edit ข้อมูล (ขั้นตอนการบันทึกลงฐานข้อมูล)
<%
studentid=session("studentid")
studentname=session("studentname")
studentlastname=session("studentlastname")
studentclass=session("studentclass")
studentroom=session("studentroom")
Set Conn=Server.CreateObject("ADODB.Connection")
conn.open "DRIVER={MySQL ODBC 3.51 Driver};SERVER=localhost;DATABASE=wastebank;UID=root;PWD=;OPTION=3"
Set rs = Server.CreateObject("ADODB.Recordset")
rs.Open "select * from student where studentid = '"+studentid+"' ;" , conn,1,3
if not(rs.bof and rs.eof) Then
rs("studentname")=studentname
rs("studentlastname")=studentlastname
rs("studentclass")=studentclass
rs("studentroom")=studentroom
rs.update
response.redirect("searchstudent.asp")
else
response.write "Not Found Data"
end if
%>
โค้ดสำหรับการแสดงค่า โดยมีการ Relationship
<%
Set Conn=Server.CreateObject("ADODB.Connection")
conn.open "DRIVER={MySQL ODBC 3.51 Driver};SERVER=localhost;DATABASE=wastebank;UID=root;PWD=;OPTION=3"
Set rs = Server.CreateObject("ADODB.Recordset")
rs.Open "select * from sale", conn,1,3
%>
<%
i=1
Do While Not rs.eof
studentid=rs("studentid")
bankmanagerid=rs("bankmanagerid")
trashid=rs("trashid")
%>
<%
Set Conn=Server.CreateObject("ADODB.Connection")
conn.open "DRIVER={MySQL ODBC 3.51 Driver};SERVER=localhost;DATABASE=wastebank;UID=root;PWD=;OPTION=3"
Set rs3 = Server.CreateObject("ADODB.Recordset")
rs3.Open "select * from student where studentid = '"&studentid&"' " , conn,1,3
%>
<%Do While Not rs3.eof%>
<%=rs3("studentname")%> <%=rs3("studentlastname")%>
<%
rs3.movenext
Loop
%>
<%
i=i+1
rs.movenext
Loop
%>
โค้ดสำหรับการเชื่อมต่อฐานข้อมูลแบบต่าง ๆ
- การเชื่อมต่อฐานข้อมูล โดยมีชนิดข้อมูลในการเชื่อมต่อเป็น Int
- rs4.Open "select * from student where idstu= '"&idstu&"' " , conn,1,3
- การเชื่อมต่อฐานข้อมูล โดยมีชนิดข้อมูลในการเชื่อมต่อเป็น Varchar
- sql="SELECT * FROM customer WHERE name like '%"&search&"%' order by idcus;"
- การเชื่อมต่อฐานข้อมูล เพื่อลบข้อมูล
- SQL2="delete from student where idstu='"+request("idstu")+"';"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)